วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ระบบทีวีดิจิตอลและ3มิติ

ทีวีดิจิตอลคืออะไร

         ทีวีดิจิตอลต่างจากที่วีที่เราดูอยู่ในปัจจุบันไหม เราจะมีวิธีทำความเข้าใจอย่างไร ทำไมต้องมีการประมูล และมีช่องรายการประเภทไหน อย่างไร การติดตั้ง การรับสัญญาน จะใช้อุปกรณ์อย่างไร ท่านจะหาคำตอบทุกคำตอบได้ที่นี่ เว็บ ทีวีดิจิตอลไทยแลนด์ ดอทคอม เว็บที่รวบรวมข้อมูลทีวีดิจิตอล ของคนไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย

          การที่จะแยกความแตกต่างของ
ทีวีดิจิตอลเสาอากาศ กับทีวีเสาอากาศธรรมดาหรือเราจะเรียกว่า ทีวีอนาล็อกนั้น เราต้องพิจารณาจุดใหญ่ๆ 2 จุดคือ
          1.พิจารณาที่ต้นทางคือระบบการส่งสัญญาน 
          2.พิจารณาที่ปลายทางคือระบบการรับสัญญาน 
          ผมขอเล่าสั้นๆ ง่ายๆ ถ้าท่านผู้อ่าน เคยใช้ทีวี หรือ วิทยุ Fm แล้วมีภาพเป็นเม็ดๆ หรือมีเสียงซ่าๆ หรือมีคลื่นแทรก แบบนี้จะเรียกว่าทีวีอนาล็อก แต่ถ้าท่านผู้อ่านเคยดูทีวี ที่รับจากจานดาวเทียม แล้วเวลาฝนตก หรือ พายุฤดูร้อนพัดมา แล้วเห็นเป็นภาพสี่เหลี่ยมเล็กๆ แบบ CD เป็นรอยแล้วค่อยจอดำ อย่างนี้จะเรียก ทีวีดิจิตอลครับ

ภาพทีวีอนาล็อกในช่วงที่สัญญานไม่ชัด ทีวีอนาล็อก



ภาพทีวีดิจิตอลในช่วงที่สัญญานไม่ชัด  ทีวีดิจิตอล

ภาพทีวีดิจิตอลของจริงในระบบออกอากาศในระบบ HDMI ที่สัญญานชัดมากๆ 

         
          สรุปก็คือ ทีวีอนาล็อก จะส่งสัญญานเป็นคลื่นวิทยุ โดยไม่ได้มีการแปลงการส่งเป็นระบบตัวเลข 01010101 เหมือนคอมพิวเตอร์ เวลาสัญญานอ่อน ก็จะเป็นเม็ดๆ แต่ทีวีดิจิตอล จะมีการแปลงข้อมูลเป็นตัวเลข 01100010 ก่อนที่จะส่งมา และเมื่อมาถึงเครื่องรับ ก็จะมีการแปลงสัญญานตัวเลข 01100011 ให้กลับกลายเป็น ภาพ และ เสียง ถ้าสัญญานอ่อน หรือสัญญานไม่พอ ภาพก็จะเป็นเหมือน CD เป็นรอย เพราะข้อมู,ส่งมาเป็นตัวเลข เลยมาไม่ครบ ตรงส่วนที่ไม่ครบก็จะเป็นสี่เหลี่ยม แต่ถ้าสัญญานอ่อนมากๆ ภาพก็จะหายไปเลย หรือจอดำ และขึ้นข้อความว่า ไม่มีสัญญาน หรือ สัญญานอ่อน
          อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญก็คือ ทีวีอนาล็อก จะมีช่องรายการให้รับชมน้อย เพราะทีวีอนาล็อกใช้เนื้อที่ในการส่งมาก อย่างประเทศไทยเรา ก็มีทีวีอนาล็อก แค่ 6 ช่องเอง ก็คือช่อง 3 ,5 ,7 ,9 ,NBT และ ThaiPBS เท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็น ทีวีดิจิตอล จะมีช่องมหาศาล เพราะทีวีดิจิตอลใช้เนื้อที่ในการส่งข้อมูลน้อย เปรียบให้เห็นง่ายๆก็เหมือน เทปคาสเส็ทซึ่งเป็นอนาล็อก เทียบกับ MP3ซึ่งเป็นดิจิตอล MP3 จะมีเพลงฟังได้มากกว่า และชัดกว่าเทปคาสเส็ท ยกตัวอย่างเช่น ช่องรายการในจานดาวเทียมจานดำPSI ,จานเหลือง DTV ,จานส้ม IPM ,จานแดงTRUE  หรือ เคเบิ้ลดิจิตอลท้องถิ่นต่างจังหวัด จะมีช่องรายการมากมาย ตั้งแต่ 100-200 ช่อง นั่นเอง        

รูปแบบในการรับส่งสัญญาณทีวีดิจิตอล
         
         การส่งภาพและเสียงในระบบที่เรียกว่า ทีวีดิจิตอลนั้น ปัจจุบัน ในประเทศไทยมี 3 แบบ ดังนี้

     ทีวีดิจิตอล แบบที่ 1 DVB-S คำย่อของ(Digital Video Broadcasting Sattelite ) ทีวีดิจิตอลดาวเทียม
     ทีวีดิจิตอล แบบที่ 2  DVB-C คือคำย่อของ( Digital Video Broadcasting Cable ) ทีวีดิจิตอลเคเบิ้ล
     ทีวีดิจิตอล แบบที่ 3 คือ DVB-T , DVB-T2 คือคำย่อของ( DIGITAL VIDEO BROADCASTING Terrestrial Television) ทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงในบัดนี้
ดูรายละเอียดต่อ....
     
  ทีวีดิจิตอล
              ทีวีดิจิตอล กำลังเป็นที่กล่าวขวัญกันมากในสื่อมวลชน ระบบนี้เป็นการออกอากาศภาคพื้นดินที่เรียกว่า DVB-T2 ที่มี การพัฒนามาจาก DVB-T โดยมีการพัฒนามาถึงระบบ DVB-T2 แล้ว ซึ่งระบบนี้เป็นระบบที่รองรับ MPEG4 หรือ HDMI ซึ่งระบบนี้ ได้นำมาใช้ในเมืองไทยปี 2556
ดูรายละเอียดต่อ.....
ทีวีดิจิตอล
            ตามประกาศของ กสทช. นั้น ระบบทีวีดิจิตอลในประเทศไทย เป็นโครงการที่ต้องจัดทำให้เกิดขึ้น โดยจะมีการเปลี่ยนระบบการรับชมทีวีของประเทศไทยให้เปลี่ยนเป็นระบบทีวีดิจิตอลทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2559 ก็คือ ภายใน 4 ปี นับจากนี้ไป(2556) เราจะได้เห็นประชาชน ซื้อกล่องรับสัญญานทีวีดิจิตอล DVB-T2 หรือ ซื้อเครื่องรับทีวีดิจิตอลไปติดตั้งเองในบ้าน โดยใช้กับเสาอากาศUHFเดิม เมื่อมีการประมูลทีวีดิจิตอลเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะสามารถรับชมช่องรายการทีวี ซึ่งเป็นที่วีในระบบทีวีดิจิตอล ได้ถึง 48 ช่องรายการทีวีดิจิตอล ในจำนวน 48 ช่องรายการนี้ เราจะได้ชมภาพที่ชัดในระบบ ความคมชัดสูง หรือ ที่ภาษานักเล่นเครื่องเสียง และ ทีวี เรียกกันว่า ระบบ เฮ็ดดีเอ็มไอ HDMI หรือโทรทัศน์ระบบความคมชัดสูง หรือทีวีดิจิตอลHDMIรวมอยู่ด้วยถึง 7 ช่องรายการ
          ประเภทของช่องรายการ นั้น อาจจะมีแบ่งเป็นหลายประเภท แต่สรุปได้ว่า มีช่องรายการ 3 5 7 9 11 ไทยพีบีเอส ท่านจะได้ชมแน่นอน 6 ช่องในเครื่ิองรับทีวีดิจิตอลระบบใหม่ แต่ที่เราจะลุ้นว่า จะได้ชมรายการ ฟรีทีวีในแบบความคมชัดสูง HDMI นั้น มีสิทธิ์ลุ้น แค่ 2 ช่อง คือช่อง 3 และ ช่อง 7 เท่านั้น เพราะในการประมูลช่องรายการทีวีดิจิตอลนั้น มีแบ่งเป็นช่อง HDจำนวน 7 ช่อง ที่เหลือเป็นช่องธรรมดา จำนวน 41 ช่อง แต่เราก็ยังไม่ทราบว่า ช่อง3  และ ช่อง 7 จะยื่นขอประมูลทีวีดิจิตอลในแบบ ช่องธรรมดา หรือทีวีดิจิตอลในแบบช่องHDMI ก็ยังไม่อาจทราบได้ เพราะการประมูล ยังไม่เกิดขึ้นในขณะนี้ (พ.ค.2556) 
         

เจาะให้ลึก ช่องรายการ ทีวีดิจิตอล


         ช่องรายการทีวีดิจิตอล ใน 48 ช่องนั้น มีช่อง ที่เราควรให้ความสนใจแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ๆดังนี้
     
         1.ช่องรายการทีวีดิจิตอล หมวดธุรกิจ 24 ช่อง ช่องรายการทีวีดิจิตอลประเภทนี้ ชื่อก็บอกชัดเจนว่า เป็นช่องรายการทีวีดิจิตอลหมวด ธุรกิจ แปลตรงตัว ก็คือ มีไว้เพื่อ ค้ากำไร เมื่อมีการประกาศว่ามีการประมูลทีวีดิจิตอลเกิดขึ้น ทางบริษัทผู้ผลิตรายการ ก็จะตั้งบริษัทลูกขึ้นมาหลายๆบริษัทเพื่อมาประมูลให้ชนะเพือ่สิทธิ์ในการออกอากาศ และ จะหารายได้จากการโฆษณา เพราะฉะนั้น ช่องรายการแบบนี้ ต้องจัดให้มีการประมูล ซึ่งทางกสทช.ได้มีการแบ่งช่องรายการประเภทธุรกิจนี้เป็น 4 ประเภทย่อยคือ 
   
            ประเภท
           
 ก.ช่องรายการทีวีดิจิตอลแบบ HD 7 ช่อง หรือคำในภาษากฎหมายคือ ช่องรายการประเภท ความคมชัดสูง ซึ่งช่องรายการแบบนี้ ชัดมาก สีสันก็สมจริง และใช้ทรัพยากรในการผลิตช่องมาก หรือใช้เนื้อที่ในการส่งข้อมูลมาก 
                 เพราะฉะนั้นช่องรายการทีวีดิจิตอลประเภทนี้ไม่สามารถจะมีได้ ทั้ง 48 ช่องเพราะถ้าให้เป็น HD ทั้งหมด อาจจะมีได้แค่ 12 ช่องเอง เพราะฉะนั้น กสทช.จึงจัดให้มีการประมูลได้เพียงแค่ 7 ช่อง HDเท่านั้น ช่องทีวีดิจิตอล HD นี้ ไม่มีการแบ่งประเภทรายการ ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าแกรมมี่ประมูลช่องได้ ก็อาจจะเป็นช่อง สารคดี NatGeo HD หรือถ้า TrueVisions ประมูลได้ อาจจะเป็นช่อง True Sport HD ก็ได้ หรือถ้า VoiceTV ประมูลได้ ก็อาจจะเป็น VoiceTV HD แต่ราคาที่กสทช.ประกาศ ก็คือ เริ่มต้นที่ 1,510 ล้านบาท และ เวลาเคาะราคา ก็จะให้เพิ่มครั้งละ 10 ล้าน เช่นถ้า ทรูเคาะราคา 1,510 ถ้าแกรมมี่จะให้ราคาก็จะเพิ่มเป็น 1,520 ล้าน ถ้า อินทัชอยากจะได้ ก็อาจจะให้เป็น 1,530 ล้าน ถ้าไม่มีใครให้มากกว่านี้ Aisอินทัชก็จะได้ไปในราคา 1,530 ล้าน เป็นต้น
             ข.ช่องรายการทีวีดิจิตอลแบบมาตรฐาน SD ประเภททั่วไป 7 ช่อง ช่องรายการประเภทนี้ก็คือ ไม่มีข้อกำหนดลักษณะผังรายการมากนัก ถ้าเราจะดูตัวอย่าง ก็อย่างเช่น ช่อง แฟนทีวี , ช่องWorkpoint , ช่อง3 คุ้มค่าทุกนาทีดูทีวีสีช่อง3 , ช่อง 7สีทีวีเพื่อคุณ หรือช่อง Psi Channel หรือช่อง ipm เป็นต้น ช่องประเภทนี้จะเคาะราคาเริ่มต้นที่ ราคา 380 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าช่อง HD ถึง 3 เท่า แต่เวลาที่ประมูล จะเพิ่มขึ้นครั้งละ 5 ล้่าน ยกตัวอย่าง ถ้ามีการประประมูล อย่างสมมติว่า ถ้า แกรมมี่ ขอประมูลช่อง Sd 380 ล้าน workpoint ให้ราคา 385ล้าน ถ้า Psi ใหั 390 ล้าน แล้วถ้าไม่มีใครเคาะอีก ก็ชนะ ได้ช่อง Sd ไปครอบครอง 1 ช่องใน 7ช่อง
             ค.ช่องรายการทีวีดิจิตอลแบบคมชัดธรรมดาSD ประเภท ข่าว 7 ช่อง ซึ่งช่องรายการทีวีดิจิตอลประเภทนี้ จะ เริ่มต้นที่ราคา ประมูล 220 ล้านบาท และ จะเคาะราคาขึ้นครั้งละ 2 ล้าน ข้อมูลในขณะนี้ มีช่องเนชั่น ตั้งใจที่จะประมูลแน่ๆ ส่วนค่ายอื่นๆยังไม่ชัดเจน 
             ง.ช่องรายการทีวีดิจิตอลแบบคมชัดธรรมดาSD ประเภท ช่องรายการเด็ก 3 ช่อง ช่องนี้ มีราคาเริ่มต้น ที่ 140 ล้านบาท และเคาะราคาครั้งละ 1 ล้านบาท ซึ่งช่องรายการนี้ ถ้าดูตัวอย่างเพื่อให้นึกง่ายๆในตอนนี้ มีช่องการ์ตูนคือ ช่อง ipm ช่อง การ์ตูนคลับ ช่องแก๊งค์การ์ตูน และ ช่อง Kidsทีวี ของเนชั่น แต่ในการประมูลจริง ต้องรอดูต่อไป

ทีวีดิจิตอล

           2.ช่องรายการทีวีดิจิตอล หมวดสาธารณะ 12 ช่อง ช่องรายการ 12 ช่องนี้ จะเป็นช่องที่จะทำให้เกิดประเด็นที่วิพากย์วิจารณ์ในสื่อต่างๆอย่างแน่นอน เพราะมีรายละเอียดที่ซับซ้อน
       - ความตั้งใจที่จะ ให้ ช่อง 5 ช่อง 11 และช่อง ThaiPbs ได้อยู่ในหมวดนี้แน่นอน น่าจะมาจากสาเหตุที่ว่าช่องทีวีทั้ง 3 ช่องนี้ มีสถานีส่งทั่วประเทศ ซึ่งถ้ามีการมีการนำมาแบ่งปันทรัพยากรกัน ใช้คลื่นส่งคลื่นเดียวกัน ช่องสาธารณะ ทั้ง 12 ช่อง จะแทบไม่ต้องตั้งเสาส่งเลย
   
            ที่ประชุมคณะกรรมการกสท. เมื่อ 17 เมษายน 2556 ได้มีมติไม่เป็นเอกฉันท์  เห็นด้วย3:ไม่เห็นด้วย1:งดออกเสียง1 
           ที่ประชุม กสท. ได้พิจารณาเห็นชอบคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์บริการสาธารณะประเภทที่ 2 เพื่อความมั่นคงของรัฐ ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการประสานงานการบริหารคลื่นความถี่เพื่อความมั่นคงของรัฐในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ มีมติเห็นชอบคุณสมบัติดังนี้
             
              1. ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์บริการสาธารณะ ประเภทที่ 2 เพื่อความมั่นคงของรัฐ ต้องมีสถานะเป็นกระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นใดที่มิใช่รัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา 11(1)
              2. ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามมาตรา11(1)ต้องมีบทบัญญัติกฎหมายกำหนดให้มีขอบเขตอำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการใช้คลื่นความถี่เพือประกอบกิจการบริการสาธารณะเพือรักษาความมั่นคงของรัฐ ดังนี้ 
            - พิทักษ์รักษา ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
            - พิทักษ์ รักษาเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน
            - รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ 
             ที่ประชุม กสท. ได้มีมติเห็นชอบสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ. .... และให้นำร่างประกาศฉบับดังกล่าวเสนอต่อ กสทช. เพื่อให้ความเห็นชอบและประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาต่อไป อ่านต่อ....
              ร่างเกณฑ์ Buity Contestคืออะไร

              ร่างนี้ คือแนวทางที่จะคัดเลือกว่า ช่องรายการแบบไหน จะเป็นช่องรายการประเภทสาธารณะ

              30 เมษายน พ.ศ 2556-  กรรมการกิจการกระจายเสียงฯ กสทช. ซึ่งอยู่ฝ่ายเสียงข้างน้อย 2 คน ได้แก่ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ และนายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ จัดทำร่าง”หลักเกณฑ์พิจารณาการคัดเลือกผู้ขอรับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทกิจการบริการสาธารณะ”โดยมีนักวิชาการ และภาคสังคมร่วมด้วย
             ซึ่งร่างนี้ จะใช้เป็นกติกากลาง ในการพิจารณาให้คะแนน ของผู้สนใจขอรับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล กลุ่มบริการสาธารณะ ใน รูปแบบ”บิวตี้คอนเทสต์” หรือ การพิจารณาให้คะแนนตามศักยภาพของผู้ประกอบการ แบ่งโครงสร้างออกเป็น 5 ด้าน
 
      - โครงสร้างการบริหารองค์กร               มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ     30
      - ความพร้อมด้านเนื้อหารายการ            มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ     25
      - แผนการเงิน-แผนลงทุน และรายได้      มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ    20
      - ด้านธรรมาภิบาล                           มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ     20
      - ความพร้อมการผลิตระบบดิจิตอล         มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ     10
         
            ซึ่งร่างหลักเณฑ์ทั้งหมด จะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2556นี้
            สำหรับการให้คะแนนจริง อาจแบ่งเป็น 1 พันคะแนน แต่จะใช้สัดส่วนตามโครงสร้างที่กำหนด ซึ่งการเร่งเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดสัปดาห์หน้า เป็นเพราะต้นเดือนพฤษภาคมนี้ อาจมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับแผนการประมูลทีวีดิจิตอล กลุ่มช่องธุรกิจ 24 ช่อง เพราะผลการศึกษาราคาประมูล และราคาตั้งต้นใกล้เสร็จแล้ว โดยเกณฑ์กลางของ”บิวตี้คอนเทสต์”ที่ออกมา มั่นใจว่าจะมีประโยชน์ และทำให้การใช้ดุลพินิจน้อยลง
            ทั้งนี้ หากที่ประชุมบอร์ดวันที่ 7 พ.ค.56 เห็นชอบ ก็จะทำให้ใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ และจะตั้งกรรมการคณะพิเศษ 1 ชุด เพื่อช่วยตรวจข้อสอบและรายละเอียดของผู้สนใจยื่นประกอบกิจการ
          “เหตุผลที่ต้องเรียกร้องให้มีเกณฑ์ในการพิจารณา เพราะขณะนี้เห็นว่าหากเกิดการออกแบบที่ผิดพลาด ก็จะส่งผลต่องการประกอบกิจการของช่องธุรกิจด้วย เพราะอาจส่งผลให้ผู้สนใจเข้าประมูลซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายกลางๆ ตัดสินใจวิ่งเข้าหาหน่วยราชการ เพื่อขอเช่าช่วง หรือผลิตรายการให้หน่วยราชการ แทนการร่วมประมูล เพราะไม่ต้องทนแบกรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดจากการประมูล ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ก็นับว่าเป็นความล้มเหลวของการปฏิรูปสื่อ เพราะหน่วยงานรัฐจะเป็นเจ้าของสื่อเดิม และจะครอบครองได้มากขึ้นถึง 12 ช่อง จากปัจจุบันมีสื่อของรัฐอยู่ 2 ช่อง คือ ช่อง 5 และ ช่อง 7 และยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของเอกชน ที่จะประมูลช่องธุรกิจ 24 ช่องด้วย เพราะจะบีบให้รายเล็กและรายกลาง ไม่อยากเข้าประมูล ซึ่งสุดท้ายผู้ประกอบการรายใหญ่ก็จะได้ช่องธุรกิจไปครอบครอง จึงไม่เป็นการตอบโจทย์การปฏิรูปสื่อที่แท้จริง เป็นการปิด ขาดโอกาส ขาดการส่งเสริมตามหลักการแข่งขันอย่างเสรี เป็นธรรม นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเสียงข้างน้อยจึงต้องต่อสู้อย่างเต็มที่
             แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว บอร์ดไม่รับร่างนี้ อาจต้องเป็นโยนไปให้ภาคสังคมช่วยกันตรวจสอบ หรือฟ้องร้องต่อศาล แต่หากจะให้ตัวเองทำหน้าที่ฟ้องศาลแทน ก็ขอให้โลกแตก หรือไม่มีทางเลือกจริงๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก หากจะให้บอร์ดเสียงข้างน้อย 2 คน ฟ้องร้องเสียงข้างมากที่มี 3 คน แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยากทำเช่นนั้น แต่รอดูองค์กรอื่นๆ ”
 
ข่าวล่าสุดจากNbtc กสทช.ส่งเรื่องร่างบิวตี้คอนเทสต์ให้บอร์ดเล็กตัดสิน 
                   
                      ข่าวจากที่ประชุมบอร์ดใหญ่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ครั้งที่ 5 เมื่อวันพุธที่ 22 พ.ค. 56 ที่ผ่านมา ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ได้เสนอให้พิจารณาข้อหารือขอบเขตอำนาจหน้าที่ ให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้กระบวนการดำเนินการชอบด้วยกฎหมาย และ ความจำเป็นในการจัดให้มีประกาศหลักเกณฑ์เพื่ออนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินประเภทบริการสาธารณะ เช่นเดียวกับที่จัดให้มีหลักเกณฑ์สำหรับกิจการทางธุรกิจ ที่กำหนดให้จัดทำประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการคัดเลือก และเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ตามประกาศ กสทช. เรื่อง แผนการเปลี่ยนผ่านเปลี่ยนระบบส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์เป็นระบบดิจิตอล พ.ศ.2555
                      นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า การพิจารณาวาระนี้มีการเสนอขอให้ตนถอนวาระออก แต่ตนยืนยันไม่ถอน เนื่องเพราะเหตุผลที่เสนอวาระนี้ต่อชุดใหญ่เพราะเป็นอำนาจที่คาบเกี่ยวกันตามกฎหมายที่บอร์ดใหญ่ควรใช้อำนาจวินิจฉัยในกรณีที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ซึ่งผลจากที่ประชุมได้ขอให้นำเรื่องนี้กลับไปพิจารณาที่บอร์ดเล็ก กสท. โดยตนคงรอการนำเรื่องนี้กลับมาพิจารณาอีกครั้งก่อนหาแนวทางอื่นต่อไป
                  ทั้งนี้ กสทช.มีมติผ่าน(ร่าง)ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจ โดย นางสาวสุภิญญา ได้ขอสงวนบางประเด็น อาทิ การใช้หนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินประเภทธุรกิจธนาคารพาณิชย์ตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 (Bank Guarantee) และ ราคาโครงข่ายมัลติเพล็กเซอร์ พร้อมตั้งข้อสังเกตในบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวิธีการประมูล ที่น่าจะเปิดให้มีการแสดงความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม และทำความเข้าใจกับสาธารณะและผู้เกี่ยวข้อง 
 
             3.ช่องรายการทีวีดิจิตอล หมวดชุมชน 12 ช่อง ช่องรายการหมวดนี้ยังไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ ( 11 พ.ค. 2556 ) แต่จากข้อมูลที่ได้รับมาคร่าวๆ ช่องรายการทีวีดิจิตอลประเภทนี้ก็จะมีลักษณะคล้ายๆ ช่องทีวีเคเบิ้ลท้องถิ่น หรือช่องรายการทีวีดาวเทียมท้องถี่น เช่น ช่อง BANGKOK CITY ของกรุงเทพมหานคร หรือ ช่องประจำจังหวัด เช่น บุรีรัมย์แชลแนล ในจานส้ม IPM เป็นต้น
             
 
             พันเอกดร.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กสท. เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2556 ได้อนุมัติร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบ ทีวีดิจิตอล สำหรับช่องธุรกิจ 24 ช่อง  ซึ่งร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะถูกนำเข้าสู่ที่ประชุม กสทช. อีกครั้งในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ 
            จากนั้นจะนำเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนประมูลต่อไป 
            คาดว่าจะมีการประมูลทีวีดิจิตอล ประเภทช่องธุรกิจภายในเดือน สิงหาคม-กันยายน2556นี้ โดยยังไม่ได้กำหนดประเภทช่องรายการที่จะเริ่มการประมูล
           
            ทั้งนี้ ได้กำหนดกระบวนการ วิธีการประมูลคลื่นความถี่โทรทัศน์ระบบดิจิตอลหลักๆ ใน 3 หัวข้อ ประกอบด้วย

           - กำหนดเงื่อนไขการรับใบอนุญาต ที่ผู้รับใบอนุญาตจะต้องมีการตรวจสอบเนื้อหารายการที่ออกอากาศที่ชัดเจน,

           - กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตจะต้องมีกลไกรับเรื่องร้องเรียน ที่มีประสิทธิภาพ

           - กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดบริการสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ เช่น ต้องมีบทบรรยายใต้ภาพ หรือมีล่ามภาษามือ เป็นต้น ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวเป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ

             หลักเกณฑ์การประมูล            จะกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องวางเงินเพื่อรับซองเข้าร่วมประมูล จำนวน 1 ล้านบาท ต่อ 1 ช่องสถานี วางเงินประกันซอง 10% ของราคาตั้งต้นในแต่ละประเภทช่องรายการ
                       

             การเคาะราคาประมูล
            ผู้เข้าประมูลสามารถเคาะราคาเพิ่มเงินประมูลจากราคาตั้งต้น โดย

- ช่องเด็ก เพิ่มครั้งละ                                   1 ล้านบาท
- ช่องข่าว เพิ่มครั้งละ                                   2 ล้านบาท
- ช่องมาตรฐานทั่วไป (วาไรตี้) เพิ่มครั้งละ           5 ล้านบาท
- ช่องความคมชัดสูง หรือเอชดี เพิ่มครั้งละ          10 ล้านบาท

             หลักเกณฑ์การจ่ายเงินสำหรับผู้ชนะการประมูล
          จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ก้อน คือ

           การจ่ายเงินตั้งต้นการประมูล จะแบ่งจ่ายเป็น 4 งวด ระยะเวลา 4 ปี 
โดยงวดแรกต้องจ่ายในอัตรา       50% ของเงินประมูลตั้งต้น
งวดที่ 2 จ่าย                        30%
งวดที่ 3 และ 4 งวดละ            10%
        
           การจ่ายเงินที่เพิ่มขึ้นจากการแข่งขัน ผู้ชนะจะต้องแบ่งจ่าย 6 งวด ระยะเวลา 6 ปี

โดยงวด 2 งวดแรก งวดละ          10% ของเงินส่งเพิ่มจากการแข่งขัน

ส่วนปีที่ 3-6 จะจ่ายงวดละ          20%
               
            ซึ่งจะมีการแบ่งเงินเข้ากองทุนพัฒนากิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในการเปลี่ยนผ่านระบบอนาล็อก สู่ระบบดิจิตอล
           นอกจากนี้ คณะกรรมการ กสท.ได้อนุมัติร่างประกาศ กสทช.เรื่องการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานของเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์ใน กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2546 ซึ่งจะนำไปสู่การอนุญาตจัดหาอุปกรณ์แปลงสัญญาณโทรทัศน์ให้รองรับระบบดิจิตอล หรือ SET TOP BOX
         ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุม กสทช. 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในเดือนมิถุนายน2556 
และเริ่มต้นกระบวนการอนุญาตนำเข้า SET TOP BOX ได้
        ขณะที่การแจกและอุดหนุนอุปกรณ์ SET TOP BOX ให้แก่ประชาชนจะเริ่มในต้นปีหน้า2557

          
ทีวี 3 มิติคืออะไร ? มีกี่ประเภท ? เทคนิค 3 ข้อในการชมทีวี 3 มิติ และแนะนำตัวเด็ดเกริ่นก่อนนะครับว่าบทความที่เขียนนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวและทีมงานซะส่วนใหญ่ หลังจากได้ผ่านการรีวิวทดสอบทีวี 3 มิติ "ทุกยี่ห้อ" มาแล้ว ได้แก่ LG, Samsung, Sony, Panasonic, Philips, ProVision, TCL, Toshiba

อ่านรีวิว 3D TV ทั้งหมด
>> คลิ๊กที่นี่ <<

และ 3D TV ทุกรุ่นทุกยี่ห้อในปีนี้ก็ได้ไปสัมผัสตัวจริงมาหมดแล้ว จึงขอรวบรวมความรู้ทั้งหมดมาเขียนเป็น "บทความ" เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงเทคโนโลยีทีวี 3 มิติกันอย่างกระจ่างและเห็นภาพมากยิ่งขึ้นครับ โดยมีทั้งหมด 5 หน้า ค่อยๆอ่านอย่างละเอียดนะครับ รูปประกอบบทความผมเชื่อว่าจะทำให้ท่าน "เห็นภาพ" และ "เข้าใจ" ในเนื้อหามากยิ่งขึ้นกระแสทีวี 3 มิติ !!!คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “กระแสทีวี 3 มิติ” นั้นถือว่า “มาแรง” มากในปัจจุบันนี้ และทราบหรือไม่ว่าเทคโลยีภาพ 3 มิติในวงการทีวีและภาพยนตร์นั้นมีหลายประเภทด้วยกันครับ แต่ก่อนที่เราจะดูนั้นคงต้องมาดูถึงหลักการที่ทำให้ภาพ 3 มิตินั้นลอยมีมิติออกมาก่อนครับ


“ทีวี 3 มิติ” คืออะไร?
อธิบายง่ายๆให้เห็นภาพเลยนะครับ 3D หรือ 3 Dimension คือภาพที่เราสามารถเห็นมิติ “ตื้น ลึก หนา บาง ลอย” อย่างเห็นได้ชัดเจนนั่นเอง ถ้าเปรียบเทียบกับภาพ 2 มิติจากทีวีธรรมดาซึ่งเป็นภาพ “แบนๆติดจอ” แล้ว ความสมจริงของภาพ 3 มิตินั้นจะมีมากกกว่า ซึ่งประโยชน์ที่ได้ก็คือ “ความสมจริงของภาพ” และ “อรรถรส” ในการรับชมที่มากกว่านั่นเอง ซึ่งหลายๆคนยอมรับว่ามันเหมือนเรากำลังอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆด้วย และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ผลิตทีวีจึงสนใจหันมาผลิต “ทีวี 3 มิติ” ซึ่งก็คือทีวีที่มีความสามารถในการแสดงภาพที่มีมิติ “ตื้น ลึก ลอย หนา บาง” ได้นั่นเอง เหนือกว่าทีวีธรรมดาทั่วไปที่สามารถแสดงได้แค่ภาพ 2 มิติแบนๆ


 

หลักการสร้างภาพ 3 มิติ
ภาพ 3 มิตินั้นถูกสร้งขึ้นโดยอาศัยหลักทางกายภาพว่า “ตาข้างซ้าย” และ “ตาข้างขวา” ของคนเรานั้น จะมองตำแหน่งวัตถุที่อยู่บริเวณกลางตา "ตำแหน่งไม่เท่ากัน" (ก็แหงครับ เพราะตำแหน่งของตาซ้ายและตาขวาเราห่างกันตั้ง 3-5 เซนติเมตร) สามารลองทดสอบได้ง่ายๆโดยการเอา "นิ้วชี้" ยกขึ้นมาให้ห่างจากตาซัก 10 เซนติเมตร แล้วลองปิดตาซ้ายและตาขวาสลับตาดู เจ้าตำแหน่งของนิ้วชี้ที่เราเห็นด้วยตาแต่ละข้างก็จะไม่เท่ากัน แต่ลองนึกภาพดูว่าถ้าเราสามารถกระพริบตาซ้ายขวาสลับกันได้ถึง 120 ครั้งต่อวินาที ตำแหน่งนิ้งที่จะเหลื่อมซ้ายและขวากันนิดหน่อยนั้นก็จะรวมกันเป็นหนึ่งครับ และนี่ก็คือหลักการง่ายๆที่เอาทำมาทำเป็นภาพ 3 มิติครับ


ลองชูนิ้วชี้ของท่านขึ้นมาไว้ข้างหน้าสิครับ
แล้วปิดเปิดตาซ้ายและขวาสลับกันอย่างรวดเร็วดูสิครับ


รูป GIF แบบนี้จะทำให้เราเข้าใจขึ้นเมื่อเฟรมภาพเคลื่อนไหวซ้ายและขวาสลับกันอย่างรวดเร็ว
มิติภาพจึงเกิดขึ้นมา (ลองดูจากรูปกิ่งไม้และผู้หญิงในกิโมโนได้)


"ไดโนเสาร์"แทบ "ทะลุจอ" ออกมา อย่าตกใจว่าจอคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊คของท่านเป็น 3 มิติ
เปล่าเลย !!! มันก็แค่รูปนิ่ง 2 รูปเหลื่อมซ้อนซ้ายขวากันนิดเดียวกระพริบสลับไปสลับมาก็แค่นั้นเอง

บทความใหม่ ระบบทีวีดิจิตอลและระบบทีวี3d

ทีวีดิจิตอลคืออะไร

         ทีวีดิจิตอลต่างจากที่วีที่เราดูอยู่ในปัจจุบันไหม เราจะมีวิธีทำความเข้าใจอย่างไร ทำไมต้องมีการประมูล และมีช่องรายการประเภทไหน อย่างไร การติดตั้ง การรับสัญญาน จะใช้อุปกรณ์อย่างไร ท่านจะหาคำตอบทุกคำตอบได้ที่นี่ เว็บ ทีวีดิจิตอลไทยแลนด์ ดอทคอม เว็บที่รวบรวมข้อมูลทีวีดิจิตอล ของคนไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย

          การที่จะแยกความแตกต่างของ
ทีวีดิจิตอลเสาอากาศ กับทีวีเสาอากาศธรรมดาหรือเราจะเรียกว่า ทีวีอนาล็อกนั้น เราต้องพิจารณาจุดใหญ่ๆ 2 จุดคือ
          1.พิจารณาที่ต้นทางคือระบบการส่งสัญญาน 
          2.พิจารณาที่ปลายทางคือระบบการรับสัญญาน 
          ผมขอเล่าสั้นๆ ง่ายๆ ถ้าท่านผู้อ่าน เคยใช้ทีวี หรือ วิทยุ Fm แล้วมีภาพเป็นเม็ดๆ หรือมีเสียงซ่าๆ หรือมีคลื่นแทรก แบบนี้จะเรียกว่าทีวีอนาล็อก แต่ถ้าท่านผู้อ่านเคยดูทีวี ที่รับจากจานดาวเทียม แล้วเวลาฝนตก หรือ พายุฤดูร้อนพัดมา แล้วเห็นเป็นภาพสี่เหลี่ยมเล็กๆ แบบ CD เป็นรอยแล้วค่อยจอดำ อย่างนี้จะเรียก ทีวีดิจิตอลครับ

ภาพทีวีอนาล็อกในช่วงที่สัญญานไม่ชัด ทีวีอนาล็อก



ภาพทีวีดิจิตอลในช่วงที่สัญญานไม่ชัด  ทีวีดิจิตอล

ภาพทีวีดิจิตอลของจริงในระบบออกอากาศในระบบ HDMI ที่สัญญานชัดมากๆ 

         
          สรุปก็คือ ทีวีอนาล็อก จะส่งสัญญานเป็นคลื่นวิทยุ โดยไม่ได้มีการแปลงการส่งเป็นระบบตัวเลข 01010101 เหมือนคอมพิวเตอร์ เวลาสัญญานอ่อน ก็จะเป็นเม็ดๆ แต่ทีวีดิจิตอล จะมีการแปลงข้อมูลเป็นตัวเลข 01100010 ก่อนที่จะส่งมา และเมื่อมาถึงเครื่องรับ ก็จะมีการแปลงสัญญานตัวเลข 01100011 ให้กลับกลายเป็น ภาพ และ เสียง ถ้าสัญญานอ่อน หรือสัญญานไม่พอ ภาพก็จะเป็นเหมือน CD เป็นรอย เพราะข้อมู,ส่งมาเป็นตัวเลข เลยมาไม่ครบ ตรงส่วนที่ไม่ครบก็จะเป็นสี่เหลี่ยม แต่ถ้าสัญญานอ่อนมากๆ ภาพก็จะหายไปเลย หรือจอดำ และขึ้นข้อความว่า ไม่มีสัญญาน หรือ สัญญานอ่อน
          อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญก็คือ ทีวีอนาล็อก จะมีช่องรายการให้รับชมน้อย เพราะทีวีอนาล็อกใช้เนื้อที่ในการส่งมาก อย่างประเทศไทยเรา ก็มีทีวีอนาล็อก แค่ 6 ช่องเอง ก็คือช่อง 3 ,5 ,7 ,9 ,NBT และ ThaiPBS เท่านั้นเอง แต่ถ้าเป็น ทีวีดิจิตอล จะมีช่องมหาศาล เพราะทีวีดิจิตอลใช้เนื้อที่ในการส่งข้อมูลน้อย เปรียบให้เห็นง่ายๆก็เหมือน เทปคาสเส็ทซึ่งเป็นอนาล็อก เทียบกับ MP3ซึ่งเป็นดิจิตอล MP3 จะมีเพลงฟังได้มากกว่า และชัดกว่าเทปคาสเส็ท ยกตัวอย่างเช่น ช่องรายการในจานดาวเทียมจานดำPSI ,จานเหลือง DTV ,จานส้ม IPM ,จานแดงTRUE  หรือ เคเบิ้ลดิจิตอลท้องถิ่นต่างจังหวัด จะมีช่องรายการมากมาย ตั้งแต่ 100-200 ช่อง นั่นเอง        

รูปแบบในการรับส่งสัญญาณทีวีดิจิตอล
         
         การส่งภาพและเสียงในระบบที่เรียกว่า ทีวีดิจิตอลนั้น ปัจจุบัน ในประเทศไทยมี 3 แบบ ดังนี้

     ทีวีดิจิตอล แบบที่ 1 DVB-S คำย่อของ(Digital Video Broadcasting Sattelite ) ทีวีดิจิตอลดาวเทียม
     ทีวีดิจิตอล แบบที่ 2  DVB-C คือคำย่อของ( Digital Video Broadcasting Cable ) ทีวีดิจิตอลเคเบิ้ล
     ทีวีดิจิตอล แบบที่ 3 คือ DVB-T , DVB-T2 คือคำย่อของ( DIGITAL VIDEO BROADCASTING Terrestrial Television) ทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงในบัดนี้
ดูรายละเอียดต่อ....
       
  ทีวีดิจิตอล
              ทีวีดิจิตอล กำลังเป็นที่กล่าวขวัญกันมากในสื่อมวลชน ระบบนี้เป็นการออกอากาศภาคพื้นดินที่เรียกว่า DVB-T2 ที่มี การพัฒนามาจาก DVB-T โดยมีการพัฒนามาถึงระบบ DVB-T2 แล้ว ซึ่งระบบนี้เป็นระบบที่รองรับ MPEG4 หรือ HDMI ซึ่งระบบนี้ ได้นำมาใช้ในเมืองไทยปี 2556
ดูรายละเอียดต่อ.....
ทีวีดิจิตอล
            ตามประกาศของ กสทช. นั้น ระบบทีวีดิจิตอลในประเทศไทย เป็นโครงการที่ต้องจัดทำให้เกิดขึ้น โดยจะมีการเปลี่ยนระบบการรับชมทีวีของประเทศไทยให้เปลี่ยนเป็นระบบทีวีดิจิตอลทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2559 ก็คือ ภายใน 4 ปี นับจากนี้ไป(2556) เราจะได้เห็นประชาชน ซื้อกล่องรับสัญญานทีวีดิจิตอล DVB-T2 หรือ ซื้อเครื่องรับทีวีดิจิตอลไปติดตั้งเองในบ้าน โดยใช้กับเสาอากาศUHFเดิม เมื่อมีการประมูลทีวีดิจิตอลเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะสามารถรับชมช่องรายการทีวี ซึ่งเป็นที่วีในระบบทีวีดิจิตอล ได้ถึง 48 ช่องรายการทีวีดิจิตอล ในจำนวน 48 ช่องรายการนี้ เราจะได้ชมภาพที่ชัดในระบบ ความคมชัดสูง หรือ ที่ภาษานักเล่นเครื่องเสียง และ ทีวี เรียกกันว่า ระบบ เฮ็ดดีเอ็มไอ HDMI หรือโทรทัศน์ระบบความคมชัดสูง หรือทีวีดิจิตอลHDMIรวมอยู่ด้วยถึง 7 ช่องรายการ
          ประเภทของช่องรายการ นั้น อาจจะมีแบ่งเป็นหลายประเภท แต่สรุปได้ว่า มีช่องรายการ 3 5 7 9 11 ไทยพีบีเอส ท่านจะได้ชมแน่นอน 6 ช่องในเครื่ิองรับทีวีดิจิตอลระบบใหม่ แต่ที่เราจะลุ้นว่า จะได้ชมรายการ ฟรีทีวีในแบบความคมชัดสูง HDMI นั้น มีสิทธิ์ลุ้น แค่ 2 ช่อง คือช่อง 3 และ ช่อง 7 เท่านั้น เพราะในการประมูลช่องรายการทีวีดิจิตอลนั้น มีแบ่งเป็นช่อง HDจำนวน 7 ช่อง ที่เหลือเป็นช่องธรรมดา จำนวน 41 ช่อง แต่เราก็ยังไม่ทราบว่า ช่อง3  และ ช่อง 7 จะยื่นขอประมูลทีวีดิจิตอลในแบบ ช่องธรรมดา หรือทีวีดิจิตอลในแบบช่องHDMI ก็ยังไม่อาจทราบได้ เพราะการประมูล ยังไม่เกิดขึ้นในขณะนี้ (พ.ค.2556) 
           

เจาะให้ลึก ช่องรายการ ทีวีดิจิตอล


         ช่องรายการทีวีดิจิตอล ใน 48 ช่องนั้น มีช่อง ที่เราควรให้ความสนใจแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ๆดังนี้
     
         1.ช่องรายการทีวีดิจิตอล หมวดธุรกิจ 24 ช่อง ช่องรายการทีวีดิจิตอลประเภทนี้ ชื่อก็บอกชัดเจนว่า เป็นช่องรายการทีวีดิจิตอลหมวด ธุรกิจ แปลตรงตัว ก็คือ มีไว้เพื่อ ค้ากำไร เมื่อมีการประกาศว่ามีการประมูลทีวีดิจิตอลเกิดขึ้น ทางบริษัทผู้ผลิตรายการ ก็จะตั้งบริษัทลูกขึ้นมาหลายๆบริษัทเพื่อมาประมูลให้ชนะเพือ่สิทธิ์ในการออกอากาศ และ จะหารายได้จากการโฆษณา เพราะฉะนั้น ช่องรายการแบบนี้ ต้องจัดให้มีการประมูล ซึ่งทางกสทช.ได้มีการแบ่งช่องรายการประเภทธุรกิจนี้เป็น 4 ประเภทย่อยคือ 
   
            ประเภท
           
 ก.ช่องรายการทีวีดิจิตอลแบบ HD 7 ช่อง หรือคำในภาษากฎหมายคือ ช่องรายการประเภท ความคมชัดสูง ซึ่งช่องรายการแบบนี้ ชัดมาก สีสันก็สมจริง และใช้ทรัพยากรในการผลิตช่องมาก หรือใช้เนื้อที่ในการส่งข้อมูลมาก 
                 เพราะฉะนั้นช่องรายการทีวีดิจิตอลประเภทนี้ไม่สามารถจะมีได้ ทั้ง 48 ช่องเพราะถ้าให้เป็น HD ทั้งหมด อาจจะมีได้แค่ 12 ช่องเอง เพราะฉะนั้น กสทช.จึงจัดให้มีการประมูลได้เพียงแค่ 7 ช่อง HDเท่านั้น ช่องทีวีดิจิตอล HD นี้ ไม่มีการแบ่งประเภทรายการ ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าแกรมมี่ประมูลช่องได้ ก็อาจจะเป็นช่อง สารคดี NatGeo HD หรือถ้า TrueVisions ประมูลได้ อาจจะเป็นช่อง True Sport HD ก็ได้ หรือถ้า VoiceTV ประมูลได้ ก็อาจจะเป็น VoiceTV HD แต่ราคาที่กสทช.ประกาศ ก็คือ เริ่มต้นที่ 1,510 ล้านบาท และ เวลาเคาะราคา ก็จะให้เพิ่มครั้งละ 10 ล้าน เช่นถ้า ทรูเคาะราคา 1,510 ถ้าแกรมมี่จะให้ราคาก็จะเพิ่มเป็น 1,520 ล้าน ถ้า อินทัชอยากจะได้ ก็อาจจะให้เป็น 1,530 ล้าน ถ้าไม่มีใครให้มากกว่านี้ Aisอินทัชก็จะได้ไปในราคา 1,530 ล้าน เป็นต้น
             ข.ช่องรายการทีวีดิจิตอลแบบมาตรฐาน SD ประเภททั่วไป 7 ช่อง ช่องรายการประเภทนี้ก็คือ ไม่มีข้อกำหนดลักษณะผังรายการมากนัก ถ้าเราจะดูตัวอย่าง ก็อย่างเช่น ช่อง แฟนทีวี , ช่องWorkpoint , ช่อง3 คุ้มค่าทุกนาทีดูทีวีสีช่อง3 , ช่อง 7สีทีวีเพื่อคุณ หรือช่อง Psi Channel หรือช่อง ipm เป็นต้น ช่องประเภทนี้จะเคาะราคาเริ่มต้นที่ ราคา 380 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าช่อง HD ถึง 3 เท่า แต่เวลาที่ประมูล จะเพิ่มขึ้นครั้งละ 5 ล้่าน ยกตัวอย่าง ถ้ามีการประประมูล อย่างสมมติว่า ถ้า แกรมมี่ ขอประมูลช่อง Sd 380 ล้าน workpoint ให้ราคา 385ล้าน ถ้า Psi ใหั 390 ล้าน แล้วถ้าไม่มีใครเคาะอีก ก็ชนะ ได้ช่อง Sd ไปครอบครอง 1 ช่องใน 7ช่อง
             ค.ช่องรายการทีวีดิจิตอลแบบคมชัดธรรมดาSD ประเภท ข่าว 7 ช่อง ซึ่งช่องรายการทีวีดิจิตอลประเภทนี้ จะ เริ่มต้นที่ราคา ประมูล 220 ล้านบาท และ จะเคาะราคาขึ้นครั้งละ 2 ล้าน ข้อมูลในขณะนี้ มีช่องเนชั่น ตั้งใจที่จะประมูลแน่ๆ ส่วนค่ายอื่นๆยังไม่ชัดเจน 
             ง.ช่องรายการทีวีดิจิตอลแบบคมชัดธรรมดาSD ประเภท ช่องรายการเด็ก 3 ช่อง ช่องนี้ มีราคาเริ่มต้น ที่ 140 ล้านบาท และเคาะราคาครั้งละ 1 ล้านบาท ซึ่งช่องรายการนี้ ถ้าดูตัวอย่างเพื่อให้นึกง่ายๆในตอนนี้ มีช่องการ์ตูนคือ ช่อง ipm ช่อง การ์ตูนคลับ ช่องแก๊งค์การ์ตูน และ ช่อง Kidsทีวี ของเนชั่น แต่ในการประมูลจริง ต้องรอดูต่อไป

ทีวีดิจิตอล

           2.ช่องรายการทีวีดิจิตอล หมวดสาธารณะ 12 ช่อง ช่องรายการ 12 ช่องนี้ จะเป็นช่องที่จะทำให้เกิดประเด็นที่วิพากย์วิจารณ์ในสื่อต่างๆอย่างแน่นอน เพราะมีรายละเอียดที่ซับซ้อน
       - ความตั้งใจที่จะ ให้ ช่อง 5 ช่อง 11 และช่อง ThaiPbs ได้อยู่ในหมวดนี้แน่นอน น่าจะมาจากสาเหตุที่ว่าช่องทีวีทั้ง 3 ช่องนี้ มีสถานีส่งทั่วประเทศ ซึ่งถ้ามีการมีการนำมาแบ่งปันทรัพยากรกัน ใช้คลื่นส่งคลื่นเดียวกัน ช่องสาธารณะ ทั้ง 12 ช่อง จะแทบไม่ต้องตั้งเสาส่งเลย
     
            ที่ประชุมคณะกรรมการกสท. เมื่อ 17 เมษายน 2556 ได้มีมติไม่เป็นเอกฉันท์  เห็นด้วย3:ไม่เห็นด้วย1:งดออกเสียง1 
           ที่ประชุม กสท. ได้พิจารณาเห็นชอบคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์บริการสาธารณะประเภทที่ 2 เพื่อความมั่นคงของรัฐ ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการประสานงานการบริหารคลื่นความถี่เพื่อความมั่นคงของรัฐในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ มีมติเห็นชอบคุณสมบัติดังนี้
             
              1. ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์บริการสาธารณะ ประเภทที่ 2 เพื่อความมั่นคงของรัฐ ต้องมีสถานะเป็นกระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นใดที่มิใช่รัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา 11(1)
              2. ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามมาตรา11(1)ต้องมีบทบัญญัติกฎหมายกำหนดให้มีขอบเขตอำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการใช้คลื่นความถี่เพือประกอบกิจการบริการสาธารณะเพือรักษาความมั่นคงของรัฐ ดังนี้ 
            - พิทักษ์รักษา ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
            - พิทักษ์ รักษาเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน
            - รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ 
             ที่ประชุม กสท. ได้มีมติเห็นชอบสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ. .... และให้นำร่างประกาศฉบับดังกล่าวเสนอต่อ กสทช. เพื่อให้ความเห็นชอบและประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาต่อไป อ่านต่อ....
             
ร่างเกณฑ์ Buity Contestคืออะไร

              ร่างนี้ คือแนวทางที่จะคัดเลือกว่า ช่องรายการแบบไหน จะเป็นช่องรายการประเภทสาธารณะ

              30 เมษายน พ.ศ 2556-  กรรมการกิจการกระจายเสียงฯ กสทช. ซึ่งอยู่ฝ่ายเสียงข้างน้อย 2 คน ได้แก่ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ และนายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ จัดทำร่าง”หลักเกณฑ์พิจารณาการคัดเลือกผู้ขอรับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลประเภทกิจการบริการสาธารณะ”โดยมีนักวิชาการ และภาคสังคมร่วมด้วย
             ซึ่งร่างนี้ จะใช้เป็นกติกากลาง ในการพิจารณาให้คะแนน ของผู้สนใจขอรับใบอนุญาตทีวีดิจิตอล กลุ่มบริการสาธารณะ ใน รูปแบบ”บิวตี้คอนเทสต์” หรือ การพิจารณาให้คะแนนตามศักยภาพของผู้ประกอบการ แบ่งโครงสร้างออกเป็น 5 ด้าน
 
      - โครงสร้างการบริหารองค์กร               มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ     30
      - ความพร้อมด้านเนื้อหารายการ            มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ     25
      - แผนการเงิน-แผนลงทุน และรายได้      มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ    20
      - ด้านธรรมาภิบาล                           มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ     20
      - ความพร้อมการผลิตระบบดิจิตอล         มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ     10
         
            ซึ่งร่างหลักเณฑ์ทั้งหมด จะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2556นี้
            สำหรับการให้คะแนนจริง อาจแบ่งเป็น 1 พันคะแนน แต่จะใช้สัดส่วนตามโครงสร้างที่กำหนด ซึ่งการเร่งเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดสัปดาห์หน้า เป็นเพราะต้นเดือนพฤษภาคมนี้ อาจมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับแผนการประมูลทีวีดิจิตอล กลุ่มช่องธุรกิจ 24 ช่อง เพราะผลการศึกษาราคาประมูล และราคาตั้งต้นใกล้เสร็จแล้ว โดยเกณฑ์กลางของ”บิวตี้คอนเทสต์”ที่ออกมา มั่นใจว่าจะมีประโยชน์ และทำให้การใช้ดุลพินิจน้อยลง
            ทั้งนี้ หากที่ประชุมบอร์ดวันที่ 7 พ.ค.56 เห็นชอบ ก็จะทำให้ใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ และจะตั้งกรรมการคณะพิเศษ 1 ชุด เพื่อช่วยตรวจข้อสอบและรายละเอียดของผู้สนใจยื่นประกอบกิจการ
          “เหตุผลที่ต้องเรียกร้องให้มีเกณฑ์ในการพิจารณา เพราะขณะนี้เห็นว่าหากเกิดการออกแบบที่ผิดพลาด ก็จะส่งผลต่องการประกอบกิจการของช่องธุรกิจด้วย เพราะอาจส่งผลให้ผู้สนใจเข้าประมูลซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายกลางๆ ตัดสินใจวิ่งเข้าหาหน่วยราชการ เพื่อขอเช่าช่วง หรือผลิตรายการให้หน่วยราชการ แทนการร่วมประมูล เพราะไม่ต้องทนแบกรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดจากการประมูล ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ก็นับว่าเป็นความล้มเหลวของการปฏิรูปสื่อ เพราะหน่วยงานรัฐจะเป็นเจ้าของสื่อเดิม และจะครอบครองได้มากขึ้นถึง 12 ช่อง จากปัจจุบันมีสื่อของรัฐอยู่ 2 ช่อง คือ ช่อง 5 และ ช่อง 7 และยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของเอกชน ที่จะประมูลช่องธุรกิจ 24 ช่องด้วย เพราะจะบีบให้รายเล็กและรายกลาง ไม่อยากเข้าประมูล ซึ่งสุดท้ายผู้ประกอบการรายใหญ่ก็จะได้ช่องธุรกิจไปครอบครอง จึงไม่เป็นการตอบโจทย์การปฏิรูปสื่อที่แท้จริง เป็นการปิด ขาดโอกาส ขาดการส่งเสริมตามหลักการแข่งขันอย่างเสรี เป็นธรรม นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเสียงข้างน้อยจึงต้องต่อสู้อย่างเต็มที่
             แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว บอร์ดไม่รับร่างนี้ อาจต้องเป็นโยนไปให้ภาคสังคมช่วยกันตรวจสอบ หรือฟ้องร้องต่อศาล แต่หากจะให้ตัวเองทำหน้าที่ฟ้องศาลแทน ก็ขอให้โลกแตก หรือไม่มีทางเลือกจริงๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก หากจะให้บอร์ดเสียงข้างน้อย 2 คน ฟ้องร้องเสียงข้างมากที่มี 3 คน แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยากทำเช่นนั้น แต่รอดูองค์กรอื่นๆ ”
 
ข่าวล่าสุดจากNbtc กสทช.ส่งเรื่องร่างบิวตี้คอนเทสต์ให้บอร์ดเล็กตัดสิน 
                   
                      ข่าวจากที่ประชุมบอร์ดใหญ่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ครั้งที่ 5 เมื่อวันพุธที่ 22 พ.ค. 56 ที่ผ่านมา ผศ.ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) ได้เสนอให้พิจารณาข้อหารือขอบเขตอำนาจหน้าที่ ให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้กระบวนการดำเนินการชอบด้วยกฎหมาย และ ความจำเป็นในการจัดให้มีประกาศหลักเกณฑ์เพื่ออนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินประเภทบริการสาธารณะ เช่นเดียวกับที่จัดให้มีหลักเกณฑ์สำหรับกิจการทางธุรกิจ ที่กำหนดให้จัดทำประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการคัดเลือก และเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ตามประกาศ กสทช. เรื่อง แผนการเปลี่ยนผ่านเปลี่ยนระบบส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์เป็นระบบดิจิตอล พ.ศ.2555
                      นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า การพิจารณาวาระนี้มีการเสนอขอให้ตนถอนวาระออก แต่ตนยืนยันไม่ถอน เนื่องเพราะเหตุผลที่เสนอวาระนี้ต่อชุดใหญ่เพราะเป็นอำนาจที่คาบเกี่ยวกันตามกฎหมายที่บอร์ดใหญ่ควรใช้อำนาจวินิจฉัยในกรณีที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ซึ่งผลจากที่ประชุมได้ขอให้นำเรื่องนี้กลับไปพิจารณาที่บอร์ดเล็ก กสท. โดยตนคงรอการนำเรื่องนี้กลับมาพิจารณาอีกครั้งก่อนหาแนวทางอื่นต่อไป
                  ทั้งนี้ กสทช.มีมติผ่าน(ร่าง)ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจ โดย นางสาวสุภิญญา ได้ขอสงวนบางประเด็น อาทิ การใช้หนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินประเภทธุรกิจธนาคารพาณิชย์ตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 (Bank Guarantee) และ ราคาโครงข่ายมัลติเพล็กเซอร์ พร้อมตั้งข้อสังเกตในบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวิธีการประมูล ที่น่าจะเปิดให้มีการแสดงความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม และทำความเข้าใจกับสาธารณะและผู้เกี่ยวข้อง 
   
             3.ช่องรายการทีวีดิจิตอล หมวดชุมชน 12 ช่อง ช่องรายการหมวดนี้ยังไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ ( 11 พ.ค. 2556 ) แต่จากข้อมูลที่ได้รับมาคร่าวๆ ช่องรายการทีวีดิจิตอลประเภทนี้ก็จะมีลักษณะคล้ายๆ ช่องทีวีเคเบิ้ลท้องถิ่น หรือช่องรายการทีวีดาวเทียมท้องถี่น เช่น ช่อง BANGKOK CITY ของกรุงเทพมหานคร หรือ ช่องประจำจังหวัด เช่น บุรีรัมย์แชลแนล ในจานส้ม IPM เป็นต้น
             
 
             พันเอกดร.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กสท. เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2556 ได้อนุมัติร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบ ทีวีดิจิตอล สำหรับช่องธุรกิจ 24 ช่อง  ซึ่งร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะถูกนำเข้าสู่ที่ประชุม กสทช. อีกครั้งในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ 
            จากนั้นจะนำเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนประมูลต่อไป 
            คาดว่าจะมีการประมูลทีวีดิจิตอล ประเภทช่องธุรกิจภายในเดือน สิงหาคม-กันยายน2556นี้ โดยยังไม่ได้กำหนดประเภทช่องรายการที่จะเริ่มการประมูล
           
            ทั้งนี้ ได้กำหนดกระบวนการ วิธีการประมูลคลื่นความถี่โทรทัศน์ระบบดิจิตอลหลักๆ ใน 3 หัวข้อ ประกอบด้วย

           - กำหนดเงื่อนไขการรับใบอนุญาต ที่ผู้รับใบอนุญาตจะต้องมีการตรวจสอบเนื้อหารายการที่ออกอากาศที่ชัดเจน,

           - กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตจะต้องมีกลไกรับเรื่องร้องเรียน ที่มีประสิทธิภาพ

           - กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดบริการสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ เช่น ต้องมีบทบรรยายใต้ภาพ หรือมีล่ามภาษามือ เป็นต้น ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวเป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ

             หลักเกณฑ์การประมูล            จะกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องวางเงินเพื่อรับซองเข้าร่วมประมูล จำนวน 1 ล้านบาท ต่อ 1 ช่องสถานี วางเงินประกันซอง 10% ของราคาตั้งต้นในแต่ละประเภทช่องรายการ
                       

             การเคาะราคาประมูล
            ผู้เข้าประมูลสามารถเคาะราคาเพิ่มเงินประมูลจากราคาตั้งต้น โดย

- ช่องเด็ก เพิ่มครั้งละ                                   1 ล้านบาท
- ช่องข่าว เพิ่มครั้งละ                                   2 ล้านบาท
- ช่องมาตรฐานทั่วไป (วาไรตี้) เพิ่มครั้งละ           5 ล้านบาท
- ช่องความคมชัดสูง หรือเอชดี เพิ่มครั้งละ          10 ล้านบาท

             หลักเกณฑ์การจ่ายเงินสำหรับผู้ชนะการประมูล
          จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ก้อน คือ

           การจ่ายเงินตั้งต้นการประมูล จะแบ่งจ่ายเป็น 4 งวด ระยะเวลา 4 ปี 
โดยงวดแรกต้องจ่ายในอัตรา       50% ของเงินประมูลตั้งต้น
งวดที่ 2 จ่าย                        30%
งวดที่ 3 และ 4 งวดละ            10%
        
           การจ่ายเงินที่เพิ่มขึ้นจากการแข่งขัน ผู้ชนะจะต้องแบ่งจ่าย 6 งวด ระยะเวลา 6 ปี

โดยงวด 2 งวดแรก งวดละ          10% ของเงินส่งเพิ่มจากการแข่งขัน

ส่วนปีที่ 3-6 จะจ่ายงวดละ          20%
               
            ซึ่งจะมีการแบ่งเงินเข้ากองทุนพัฒนากิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในการเปลี่ยนผ่านระบบอนาล็อก สู่ระบบดิจิตอล
           นอกจากนี้ คณะกรรมการ กสท.ได้อนุมัติร่างประกาศ กสทช.เรื่องการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานของเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์ใน กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2546 ซึ่งจะนำไปสู่การอนุญาตจัดหาอุปกรณ์แปลงสัญญาณโทรทัศน์ให้รองรับระบบดิจิตอล หรือ SET TOP BOX
         ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุม กสทช. 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในเดือนมิถุนายน2556 
และเริ่มต้นกระบวนการอนุญาตนำเข้า SET TOP BOX ได้
        ขณะที่การแจกและอุดหนุนอุปกรณ์ SET TOP BOX ให้แก่ประชาชนจะเริ่มในต้นปีหน้า2557

          
ทีวี 3 มิติคืออะไร ? มีกี่ประเภท ? เทคนิค 3 ข้อในการชมทีวี 3 มิติ และแนะนำตัวเด็ด
เกริ่นก่อนนะครับว่าบทความที่เขียนนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวและทีมงานซะส่วนใหญ่ หลังจากได้ผ่านการรีวิวทดสอบทีวี 3 มิติ "ทุกยี่ห้อ" มาแล้ว ได้แก่ LG, Samsung, Sony, Panasonic, Philips, ProVision, TCL, Toshiba

อ่านรีวิว 3D TV ทั้งหมด
>> คลิ๊กที่นี่ <<

และ 3D TV ทุกรุ่นทุกยี่ห้อในปีนี้ก็ได้ไปสัมผัสตัวจริงมาหมดแล้ว จึงขอรวบรวมความรู้ทั้งหมดมาเขียนเป็น "บทความ" เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงเทคโนโลยีทีวี 3 มิติกันอย่างกระจ่างและเห็นภาพมากยิ่งขึ้นครับ โดยมีทั้งหมด 5 หน้า ค่อยๆอ่านอย่างละเอียดนะครับ รูปประกอบบทความผมเชื่อว่าจะทำให้ท่าน "เห็นภาพ" และ "เข้าใจ" ในเนื้อหามากยิ่งขึ้น
กระแสทีวี 3 มิติ !!!คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “กระแสทีวี 3 มิติ” นั้นถือว่า “มาแรง” มากในปัจจุบันนี้ และทราบหรือไม่ว่าเทคโลยีภาพ 3 มิติในวงการทีวีและภาพยนตร์นั้นมีหลายประเภทด้วยกันครับ แต่ก่อนที่เราจะดูนั้นคงต้องมาดูถึงหลักการที่ทำให้ภาพ 3 มิตินั้นลอยมีมิติออกมาก่อนครับ


“ทีวี 3 มิติ” คืออะไร?
อธิบายง่ายๆให้เห็นภาพเลยนะครับ 3D หรือ 3 Dimension คือภาพที่เราสามารถเห็นมิติ “ตื้น ลึก หนา บาง ลอย” อย่างเห็นได้ชัดเจนนั่นเอง ถ้าเปรียบเทียบกับภาพ 2 มิติจากทีวีธรรมดาซึ่งเป็นภาพ “แบนๆติดจอ” แล้ว ความสมจริงของภาพ 3 มิตินั้นจะมีมากกกว่า ซึ่งประโยชน์ที่ได้ก็คือ “ความสมจริงของภาพ” และ “อรรถรส” ในการรับชมที่มากกว่านั่นเอง ซึ่งหลายๆคนยอมรับว่ามันเหมือนเรากำลังอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆด้วย และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ผลิตทีวีจึงสนใจหันมาผลิต “ทีวี 3 มิติ” ซึ่งก็คือทีวีที่มีความสามารถในการแสดงภาพที่มีมิติ “ตื้น ลึก ลอย หนา บาง” ได้นั่นเอง เหนือกว่าทีวีธรรมดาทั่วไปที่สามารถแสดงได้แค่ภาพ 2 มิติแบนๆ


 

หลักการสร้างภาพ 3 มิติ
ภาพ 3 มิตินั้นถูกสร้งขึ้นโดยอาศัยหลักทางกายภาพว่า “ตาข้างซ้าย” และ “ตาข้างขวา” ของคนเรานั้น จะมองตำแหน่งวัตถุที่อยู่บริเวณกลางตา "ตำแหน่งไม่เท่ากัน" (ก็แหงครับ เพราะตำแหน่งของตาซ้ายและตาขวาเราห่างกันตั้ง 3-5 เซนติเมตร) สามารลองทดสอบได้ง่ายๆโดยการเอา "นิ้วชี้" ยกขึ้นมาให้ห่างจากตาซัก 10 เซนติเมตร แล้วลองปิดตาซ้ายและตาขวาสลับตาดู เจ้าตำแหน่งของนิ้วชี้ที่เราเห็นด้วยตาแต่ละข้างก็จะไม่เท่ากัน แต่ลองนึกภาพดูว่าถ้าเราสามารถกระพริบตาซ้ายขวาสลับกันได้ถึง 120 ครั้งต่อวินาที ตำแหน่งนิ้งที่จะเหลื่อมซ้ายและขวากันนิดหน่อยนั้นก็จะรวมกันเป็นหนึ่งครับ และนี่ก็คือหลักการง่ายๆที่เอาทำมาทำเป็นภาพ 3 มิติครับ


ลองชูนิ้วชี้ของท่านขึ้นมาไว้ข้างหน้าสิครับ
แล้วปิดเปิดตาซ้ายและขวาสลับกันอย่างรวดเร็วดูสิครับ


รูป GIF แบบนี้จะทำให้เราเข้าใจขึ้นเมื่อเฟรมภาพเคลื่อนไหวซ้ายและขวาสลับกันอย่างรวดเร็ว
มิติภาพจึงเกิดขึ้นมา (ลองดูจากรูปกิ่งไม้และผู้หญิงในกิโมโนได้)


"ไดโนเสาร์"แทบ "ทะลุจอ" ออกมา อย่าตกใจว่าจอคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊คของท่านเป็น 3 มิติ
เปล่าเลย !!! มันก็แค่รูปนิ่ง 2 รูปเหลื่อมซ้อนซ้ายขวากันนิดเดียวกระพริบสลับไปสลับมาก็แค่นั้นเอง

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556

ต้องมีอุปกรณ์รับสัญญาน wireless (wi-fi) หากเป็นโน้ตบุ๊คส่วนใหญ่จะมีอยู่แล้ว หรือจะเป็นสายแลนก็ได้ หากไม่ไกลมาก

อุปกรณ์ Router ใช้ส่งสัญญาณ wi-fi เท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว ส่วนวิธีตั้งค่า จะต้องขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการรายนั้นๆ ครับ 
ก่อนอื่นต้องเตรียมอุปกรณ์ Hub หรือ Rounter สำหรับการทำเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่มากกว่า 2 เครื่องขึ้นไปนะครับ

หรือหากต้องกาแค่ 2 เครื่อง ก็สามารถใช้สาย Lan แบบไขว้ ก็ได้ครับ ก่อนอื่นเรามาตั้งค่าการเชื่อมต่อกันก่อนดีกว่า

1. ไปที Start > Network Places.. ก่อนเลยครับ

2. ไปที่ Set up a home or small office network

3. จะเป็นการบอกว่าการตั้งค่านี้สารถตั้งค่าการเชื่อมต่ออะไรได้บ้าง 



4. จะเป็นการบอกให้เปิดอุปกรณ์ใดๆ บ้าง คลิกที่ Next 

5. ในหัวข้อนี้จะเป็นการเลือกการเชื่อมต่อ หากเครื่องแม่หัวข้อด้านบน เครื่องลุกหัวข้อด้านล่าง

6. สั่งการให้การ์ดแลนตัวใด เป็นการเชื่อมต่อ 



7. เป็นการสร้างชื่อให้กับคอมพิวเตอร์ [ห้ามซํากัน]

8. ตั้งกลุ่มของการเชื่อมต่อ [ต้องเหมือนกัน]

9. ตั้งค่าอนุญาติการแชร์เครื่องปริ้นเตอร์หรือไม่ 




10. เป็นตารางบอกรายละเอียดของการเชื่อมต่อที่เราตั้งค่าเอาไว้

11. รอเครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผลการเชื่อมต่อ

12. เลือกหมวดการเชื่อมต่อเครื่องลูกให้การตั่งค่ารูปแบบใด

- สร้างแผ่น Floppy Disc เป็นสื่อกลางการตั้งค่า

- ตั้งค่าในภายหลัง

- ใช้แผ่น ระบบปฏิบัติการ Windows Xp

- สิ้นสุดการเชื่อมต่อ 




วิธีที่จะทำให้เปิดไฟล์แชร์กันได้และสามารถใช้ Internet ร่วมกันได้เป็นวงนะครับ
1.ติดตั้งโดยปรับเครื่อง Server ให้เป็นแม่ข่ายซะก่อน
ทำได้โดยทำตามภาพเลยนะครับ ที่
1.1 กดปุ่ม Start
1.2 เข้าไปที่ Control Panel
หรือจะกด ปุ่ม winkey+R แล้วพิมพ์ “Control” ก็ได้ครับเพื่อเข้าไปสู่ Control Panel
1.3 มองหาไอคอน Network Setup Wizard แล้วดับเบิ้ลคลิ๊กเลยครับ
(ถ้าเป็น standard view ให้กด
–1. Network and Internet Connections
–2. ลองมองหาจะเจอ Network Setup Wizard
–3. กดดับเบิ้ลคลิกเข้าไปเลยครับ)
image
อันนี้ของคนที่มีมุมมองแบบ Standard หลังจากกด
ที่ Start –> Control Panel –> Network and Internet Connections
แล้วจะเจออย่างนี้นะครับให้กด Network Setup Wizard เข้าไปเลย
เพื่อตั้งค่าให้เครื่องที่ต่อเน็ต ADSLเป็น Server ก่อน
image
จะเจอหน้าต่าง Network Setup Wizard ขึ้นมาให้กด Next ได้เลยครับ
image
กด Next ต่อได้เลยครับ
image
กดคลิ๊กที่ ปุ่มวงกลมด้านบนเพื่อเลือกตั้งให้เครื่องเราเป็น Sever
image
อธิบายโดยภาพ จากมุมมองใน View an example
จะเห็นว่าที่ลูกศรชี้นั้นคือเครื่องของเราจะครับจะรับหน้าที่เป็นตัวแม่ข่ายหรือ Sever
สำหรับการจัดการให้เครื่องลูกข่ายอื่นๆใช้งาน Internet ได้ และทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายสำหรับวง Network ด้วยครับ
image
กด Next ไปต่อได้เลยครับ
image
มาถึงขั้นตอนนี้แล้วคุณจะต้องเลือก รายการที่คุณใช้สำหรับการเชื่อมต่อไปสู่ Internet
ถ้าคุณติดตั้ง ADSL แล้วจะเจอดังรูปนะครับ มี 3 บรรทัดให้เลือก
1. คือ รายชื่อของรายการ ADSL ที่ใช้เชื่อมต่อ Internet
2. คือ รายชื่อของ Driver สำหรับ Modem ADSL ของคุณว่าคุณใช้รุ่นอะไรก็จะเป็นตามรายชื่อของรุ่นนั้น
3. คือ รายชื่อของ Network ที่ใช้เชื่อมต่อกับวง Lan ของคุณ ใช้การ์ดรุ่นไหนก็จะได้รายชื่อของการ์ดนะครับ
image
ให้เลือกที่ตัว ADSL ที่ปรากฎในรายชื่อที่คุณใช้ต่อนั้นแหละครับเป็นหลัก ทำโดยเอาเมาส์ไปคลิก แล้วจะมีแถบสีทึบขึ้น หรือ Hilight นั่นแหละครับ ตามภาพเลย
image
เหมือนเดิมครับกด Next ไปตามขั้นตอนได้เลย
image
คราวนี้คุณจะเจอ 2 อันล่ะ
เป็นขั้นตอนที่คุณต้องเลือกแล้วว่าจะเปิดให้ทำการแชร์ไปยังช่องทางไหนของการติดต่อที่คุณมีอยู่
อันที่ 1. คือ รายชื่อของ Driver สำหรับ Modem ADSL ของคุณว่าคุณใช้รุ่นอะไรก็จะเป็นตามรายชื่อของรุ่นนั้น
อันที่ 2. คือ รายชื่อของ Network ที่ใช้เชื่อมต่อกับวง Lan ของคุณ ใช้การ์ดรุ่นไหนก็จะได้รายชื่อของการ์ดนะครับ
คุณต้องเลือกล่ะ…
image
ให้คุณไปเลือกเอาอันที่ไม่ต้องให้เปิดทำการ Share ออกไป
ที่เห็นคือผมเอา Local Area Connection 3 GlobespanVirata USB ADSL LAN Modem ออก เพราะเป็นตัว Modem ของ ASDL เองออก
และให้คงเหลือไว้แต่ช่องทางของ การใช้ช่องทางในวง LAN เท่านั้น
image
จะได้ดังภาพนะครับเหลือไว้แค่ช่องทางสำหรับเครือข่ายของคุณนะครับ
แล้วก็กด –> Next ได้เลยครับ
image
จะเข้ามาพบหน้าต่างของการกำหนดชื่อของเครื่องของคุณ และก็คำอธิบาย ดังที่เห็นคือ
1. คือ คำอธิบายย่อย ๆ ของเครื่องของคุณ –> ไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ
2. คือ ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ –> จำเป็นต้องใส่นะครับอะไรก็ได้ที่ชอบ
ให้กรอกนะครับ ที่ต้องมีคือชื่อเครื่องของคุณในช่องที่ 2.
ในที่นี้ผมใช้ว่า “CAT” คือชื่อเครื่อง และคำอธิบายเครื่องผมคือ “catserver”
กรอกเสร็จแล้วกด –> Next
image
จะพบหน้าต่างที่ให้คุณกรอกรายละเอียดของชื่อ เครือข่ายของคุณ นะครับใส่อะไรก็ได้
*** แต่ต้องจำไว้นะครับว่าค่านี้เครื่องลูกข่ายจะต้องเหมือนคุณทั้งหมด ***
ค่าเริ่มต้นคือ MSHOME ในที่นี้ผมจะเปลี่ยนไปเป็น “catserver” นะครับ
ในที่นี้ถ้าคุณไม่เปลี่ยนก็กด Next ได้เลยครับ
image
ในที่นี้ถ้าคุณใช้ Microsoft Windows XP Service Pack 2 จะเจออีกหน้าต่าง
แต่ถ้าคุณไม่ใช้จะไม่เจอนะครับ
เป็นหน้าต่างสำหรับการตั้งค่าการแชร์ไฟล์ในเครื่องของคุณต่อเครือข่ายซึ่งไม่เกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Internet สำหรับหน้าต่างนี้มีรายละเอียดดังนี้
1. คือ เปิดให้สามารถใช้ ไฟล์ข้อมูลและเครื่องพิมพ์ร่วมกันได้
2. คือ ปิดไม่อนุญาตให้ใช้ ไฟล์ข้อมูลและเครื่องพิมพ์ร่วมกัน
ถ้าคุณจะเลือกอันไหนก็กดเลือกที่ปุ่มวงกลมได้เลยครับ
*** ในที่นี้ผมไม่อนุญาติครับ เพราะตั้งความปลอดภัยไว้ให้สูงก่อน อิอิ
เสร็จแล้วกด –> Next ได้เลยครับ
image
และนี่เป็นหน้าต่างที่เครื่องจะแจ้งข้อมูลที่คุณได้ตั้งไว้นะครับ ถ้าทำถูกขั้นตอนก็ไม่ต้องสงสัยนะครับ กด —> Next ได้เลยครับ
image
เครื่องจะทำการตั้งค่าตามที่ได้กำหนดไว้นะครับ ให้รอสักครู่
image
เสร็จล่ะครับ มีให้เลือกหน้าต่างให้เลือกอีกแน่ะ
ไม่ต้องตกใจครับ สำหรับหน้าต่างนี้จะเป็นหน้าต่างที่เตรียมการให้สำหรับการตั้งค่าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆในเครือข่ายของคุณครับ ซึ่งเครื่องจะถามว่าคุณจะทำยังไง โดยมีรายละเอียดดังนี้นะครับ
1. คือ จะสร้างแผ่น Network Startup Disk ให้คุณสำหรับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ลงไดร์ฟ A: หลังจากคุณกด Next
2. คือ จะใช้ แผ่น Network Startup Disk ซึ่งก็บอกว่าเรามีอยู่แล้ว
3. คือ จะใช้แผ่น CD ของ MS Windows XP
4. คือให้เสร็จสิ้นได้เลยเราไม่ต้องการจะใช้งานตัวช่วยแล้ว
สำหรับขั้นตอนของผมให้เลือก 4 ได้เลยครับไม่ต้องยุ่งยาก
เสร็จแล้วกด –> Next ได้เลยครับ
image
เสร็จล่ะครับ กด Finish ได้เลยครับ
image
ถ้าเป็นกรณีลงเครื่องใหม่ จะให้รีสตาร์ท นะครับ ก็กด OK ไป เครื่องก็จะรีสตาร์ทพอเริ่มมาใหม่ ก็จะใช้ได้ล่ะ เป็น Server ที่พร้อมจะปล่อย IP ให้เครื่องลูกแล้ว
ถ้าเครื่องไม่แจ้งให้รีสตาร์ท ผมก็แนะนำให้ทำนะครับ เครื่องจะได้จดจำค่าใหม่ไม่งง
สำหรับเครื่องลูกนะครับให้ทำตามขั้นตอนแรก จนถึงขั้นตอนของ Reply #4 นะครับเปลี่ยนเป็นเลือกที่ เมาส์ชี้ นะครับเพื่อตั้งค่าให้เป็นเครื่องลูกข่าย
image
ภาพขยายเพื่อความเข้าใจใน View example ครับ จะเห็นว่าที่เมาส์ชี้และเขียนว่า This Computer คือเครื่องลูกข่ายนะครับจะทำหน้าที่รับข้อมูลจากโลก Internet ที่แม่ข่ายส่งมาให้ได้เลย (ตัวแม่ที่เราตั้งได้ทำหน้าที่เป็น Gate Way ซะแล้วครับไม่ต้อง งงนะครับ)
ข้อมูลเพิ่มนิดครับ
Gate Way คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่คอยจัดสรรข้อมูลให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายครับ
image
เหมือนเดิมนะครับ เราตั้งแค่ชื่อเครื่องของเราก็พอสำหรับเครื่องลูกข่ายหรือ Client
ถ้าไม่เข้าใจย้อนกลับไปดูใน Reply #14 นะครับ
ในที่นี้ผมตั้งว่าชื่อเครื่องลูกนี้ว่า “CAT-02″ ครับ
เสร็จแล้วกด –> Next ได้เลยครับ
image
สำหรับขั้นตอนนี้ต้องตั้งให้เหมือนกันกับเครื่อง Sever ที่เราได้ตั้งไว้นะครับ
ถ้าไม่เข้าใจให้ย้อนไปดูตาม Reply #15
*** ค่าเริ่มต้นคือ MSHOME — ตรงนี้คือชื่อของกลุ่มเครือข่ายของคุณครับ — ต้องเหมือนกันครับ ***
เสร็จแล้วก็กด –> Next ได้เลยครับ
image
ขั้นตอนนี้ถ้าใช้ MS Windows XP Service Pack 2 จะพบนะครับ ก็เลือกตามชอบถ้าไม่เข้าใจย้อนไปดูที่ Reply #16 นะครับ
เสร็จแล้วกด –>Next ได้เลยครับ
image
จะเข้าสู่หน้าจอการแจ้งข้อมูลที่เราได้ตั้งไว้นะครับ
ให้ดูว่า Work Group ของเครื่องที่เราได้ตั้งไว้เหมือนกับเครื่อง Server ที่เราได้เซ็ทไว้ก่อนนะครับ
เสร็จแล้วกด –>Next ได้เลยครับ
image
เครื่องกำลังตั้งค่าให้…รอสักครู่นะครับ
image
เหมือนกันกับขั้นตอนของ Server ที่ Reply #19 นะครับ ผมเลือกขั้นตอน 4 เหมือนเคย (Just finish the wizard)
เสร็จแล้วกด –> Next ได้เลยครับ
image
เสร็จแล้วกด Finish ได้เลยครับ แล้วก็รีสตาร์ทได้เลยครับ
จำไว้นะครับว่าเครื่องลูก Client หรือเครื่องแม่ Server เมื่อตั้งค่าแล้วควรที่จะต้อง รีสตาร์ทเครื่องเพื่อเปลี่ยนค่าของโปรแกรมเสมอนะครับ
เสร็จแล้วครับ มาดูวิธีการต่อกันล่ะ
image
การต่อนะครับไปที่ Start –> Connect to –> Show all Connections ตามภาพครับ
image
คุณจะพบว่าที่ Icon ของ ADSL เป็นรูปมือมาอยู่ที่ไอคอน ก็หมายความว่าเราทำสำเร็จแล้วครับ
เดี๋ยวไปปรับค่ากับผมอีกนิดครับ
image
ให้คลิกขวาที่ไอคอนแล้วกดมาที่ Properties ตามภาพครับ
image
จะพบหน้าต่างนี้ล่ะให้ไปที่ แถบ Advanced ครับ
image
จะพบเครื่องหมายถูกได้ถูกคลิกอยู่ที่ช่องที่ 1 และ 2
มีรายละเอียดดังนี้ครับ
1. คือ อนุญาตให้เครื่องลูกข่ายที่เรียกการเข้าสู่ Internet สามารถเรียกการเชื่อมต่อได้อย่าง อัตโนมัติ — ถ้าต้องการที่จะควบคุมเองที่เครื่องแม่ข่าย หรือ Server ให้เอาออก
2. คือ อนุญาตให้เครื่องลูกข่ายสามารถควบคุมหรือยกเลิกการแชร์ได้ — ถ้าต้องการที่จะควบคุมเองที่เครื่องแม่ข่าย หรือ Server ให้เอาออกเช่นกันครับ
ในความจริงแล้วผมไม่แนะนำให้เลือกสองช่องนี้ไว้นะครับ ด้วยเหตุทั้งปวงด้านความปลอดภัยและสมรรถนะของเครื่องให้ปิดครับ
เสร็จแล้วก็กด OK ได้เลยครับ เวลาจะใช้ก็ก็กดที่ไอคอนที่เราได้แชร์ไว้นั่นแหละครับ แล้วเครื่องลูกที่ต่อไว้จะใช้งานได้เป็นอัตโนมัติ
เสร็จสิ้นทุกกระบวนท่าความรู้เบื้องต้นสำหรับการแชร์ INTERNET ให้กับเครื่องเครือข่าย ในระบบ Microsof Windows XP ทุกเวอร์ชั่นล่ะครับ
image